พระพรหมสี่หน้าคืออีกชื่อหนึ่งของพระพรหมที่สังคมเชื้อสายจีนคุ้นเคยกันอย่างดี พระพรหมยังมีชื่อเรียกว่า ท้าวมหาพรหม ท้าวมหาธาดาปชาบดีพรหม มีต้นกำเนิดมาจากศาสนาพราหมณ์-ฮินดู เป็นมหาเทพผู้ยิ่งใหญ่หนึ่งในสามตรีมูรติ เป็นพระผู้สร้างโลกและให้กำเนิดสิ่งต่าง ๆ ในจักรวาล และให้กำเนิดภาษาสันสกฤต ในประเทศแถบเอเชียอาคเนย์ โดยเฉพาะประเทศไทยนั้นท้าวมหาพรหมเป็นดั่งเทพเจ้าแห่งความรุ่งโรจน์และความเจริญรุ่งเรือง มานาไร้ขอบเขต พระพักตร์ทั้งสี่พระพักตร์ที่หันออกไปทั้งสี่ทิศ เหนือ ใต้ ตะวันออก ตะวันตก เปรียบดั่งการให้พรทั่วหล้า เนื่องจากว่าเทวาลัยของพระพรหมคล้ายพระพุทธในประเทศจีน จึงถูกแปลเป็นจีนว่าเป็นพระพรหมสี่หน้า ซึ่งแท้จริงแล้วพระพรหมสี่หน้านั้นไม่ใช่พระ หากแต่เป็นเทพ และเพื่อความถูกต้องจึงควรเรียกว่าเทพพรหมสี่หน้า
ท้าวมหาพรหมเป็นเทพที่ลิขิตชีวิตของมนุษย์ พระพักตร์สี่พระพักตร์ให้พรไม่เหมือนกันในแต่ละด้าน โดยแบ่งออกเป็นสี่ด้าน คือด้านการงาน ความรัก เงินทองและสุขภาพ พระพักตร์ด้านตรงให้พรด้านการงาน ธุรกิจ ด้านซ้ายให้พรด้านคู่ครอง ด้านขวาให้พรด้านสุขภาพ และด้านหลังให้พรเกี่ยวกับเงินทอง อีกความหมายหนึ่ง สามารถแปลได้ว่า พระพักตร์ทั้งสี่เปรียบเสมือนพรหมวิหารสี่ โดยแบ่งเป็น เมตตา กรุณา มุทิตา และ อุเบกขา ผู้ที่ศรัทธาทั้งหลายที่ปรารถนาจะขึ้นสวรรค์ต้องหมั่นบำเพ็ญคุณธรรมทั้งสี่ประการนี้ เชื่อกันว่าเทพพรหมสี่หน้าชื่นชอบดอกดาวเรือง กล้วยไม้ และดอกกุหลาบ ชาวไทยมักนิยมนำดอกดาวเรือง ดอกกล้วยไม้หรือดอกกุหลาบ(ความรัก) ไปบูชาถวาย โดยไหว้ทั้งสี่พระพักตร์ตามทิศของเข็มนาฬิกา ส่วนการแก้บนนั้นสามารถแก้ได้ด้วยการถวายดอกไม้เจ็ดสี รำแก้บน ตุ๊กตารูปปั้นนางรำแก้บน รูปปั้นช้าง(ขึ้นอยู่กับเรื่องที่บนไว้) เป็นต้น โดยผู้ศรัทธาที่มาบนบานไว้นั้น จะต้องจำและทำตามคำปฎิญาณที่บนไว้อย่างเคร่งครัด

พระพักตร์แรก ( ประทานพรหน้าที่การงาน การเรียน ธุรกิจและการเลื่อนตำแหน่งเป็นต้น )
พระพักตร์ที่สอง ( ประทานพรเรื่องเงินทอง โชคลาภ การเสี่ยงโชค เป็นต้น )
พระพักตร์ที่สาม ( ประทานพรเรื่องความรัก คู่ครอง ผู้อุปถัมภ์เป็นต้น )
พระพักตร์ที่สี่ ( ประทานพรเรื่องสุขภาพ โรคภัย ความปลอดภัย สุขภาพครอบครัวและเพื่อนฝูงเป็นต้น )